ประวัติ ของ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศสิงคโปร์

ในปี พ.ศ. 2563 เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ รัฐบาลสิงคโปร์ได้จองซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากผู้ผลิตวัคซีนทดลอง 3 ราย มูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์[3] โดยวางมัดจำล่วงหน้า สำหรับเป็นฐานในแผนการฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมของปีเดียวกัน วัคซีนไฟเซอร์ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินโดยสำนักวิทยาศาสตร์สุขภาพ (HSA)[4] และมาถึงสิงคโปร์ในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา[5][6] สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อนุมัติการใช้วัคซีนดังกล่าว และได้เริ่มต้นดำเนินการแผนการฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563 วัคซีนโคโรนาแว็กชุดแรกได้มาถึงสิงคโปร์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม วัคซีนดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติในทันทีจากสำนักวิทยาศาสตร์สุขภาพ[7][8]

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมของปีเดียวกัน แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของสิงคโปร์ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นแผนการฉีดวัคซีนที่ดำเนินการเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[9]

เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2564 นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง และคณะรัฐมนตรี ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์โดสแรก[10]

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 วัคซีนโมเดอร์นา ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกันโดยสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) หน่วยงานวิจัยและพัฒนาขั้นสูงด้านชีวการแพทย์ (BARDA) และบริษัทโมเดอร์นา และผลิตในสหรัฐ ได้รับการอนุมัติจากสำนักวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศแรกในเอเชียที่ใช้วัคซีนนี้[11]

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 สำนักวิทยาศาสตร์สุขภาพได้อนุมัติการใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเยาวชนอายุ 12–15 ปี[12] ภายใต้ช่องทางพิเศษ Pandemic Special Access Route (PSAR) เนื่องจากไม่มีการเตรียมการสำหรับบุคคลเหล่านี้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ในแผนการฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้ ซึ่งจะครอบคลุมผู้ใหญ่ที่มีสิทธิ์ทั้งหมดภายในเดือนสิงหาคม[13] และมีการขยายช่วงเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนสองโดสสำหรับผู้ที่มีสิทธิ์จาก 3–4 สัปดาห์เป็น 6–8 สัปดาห์[14] การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ชาวสิงคโปร์อีก 400,000 คนได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม และเพื่อให้ชาวสิงคโปร์ที่มีสิทธิ์แทบทุกคนได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสภายในต้นเดือนสิงหาคม[15][16] อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัคซีนยังคงมาถึงตามแผนที่วางไว้ และประชากรส่วนใหญ่ที่ต้องการรับวัคซีนจะได้รับวัคซีนเข็มแรกภายในครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคม ในวันที่ 29 มิถุนายน กระทรวงสาธารณสุขได้ลดช่วงเวลาระหว่างการรับวัคซีนครั้งแรกและครั้งที่สองกลับไปเป็น 4 สัปดาห์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อให้ประชากรจำนวนมากขึ้นจะได้รับการฉีดวัคซีนครบสองครั้งโดยเร็วขึ้น[17][18]

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564 หลังจากการใช้วัคซีนโคโรนาแว็กในกรณีฉุกเฉินได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก สำนักวิทยาศาสตร์สุขภาพก็ทำการอนุมัติใบอนุญาตการใช้ในกรณีฉุกเฉิน และมีการเริ่มฉีดวัคซีนในวันที่ 18 มิถุนายน[19]

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ได้มีการประกาศว่ากระทรวงสาธารณสุขได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อวัคซีนโควิด-19 ชนิดหน่วยย่อยโปรตีนกับบริษัทโนวาแวกซ์ (Novavax) โดยคาดว่าจะมีการจัดส่งมายังสิงคโปร์ก่อนสิ้นปี 2564[20]

ใกล้เคียง

การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในฮ่องกง การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศอิหร่าน การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศสิงคโปร์ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศเวียดนาม การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศอิสราเอล การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในดินแดนปาเลสไตน์ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย

แหล่งที่มา

WikiPedia: การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศสิงคโปร์ http://www.gov.sg/article/securing-singapores-acce... https://www.bangkokpost.com/world/2038975/singapor... https://www.bbc.com/news/world-latin-america-55642... https://www.channelnewsasia.com/news/singapore/fir... https://www.channelnewsasia.com/news/singapore/sin... https://www.cincainews.com/news/singapore/2021/01/... https://www.cnbc.com/2020/11/16/moderna-says-its-c... https://www.cnbc.com/2021/05/18/singapore-approves... https://www.dailysabah.com/turkey/turkey-set-to-re... https://www.nytimes.com/2020/11/20/health/covid-va...